“เทคนิคเลือกสินเชื่อรถยนต์” ควรเลือกอย่างไร ให้ผ่อนไหว สบายกระเป๋า

หากกำลังมองหาสินเชื่อรถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ ผ่อนได้ไหวและสบายกระเป๋า มาลองดูวิธีจาก ilease ไปพร้อมกัน

เทคนิคเลือกสินเชื่อ

เทคนิคเลือกสินเชื่อรถยนต์! ควรเลือกสินเชื่อแบบไหน ให้ผ่อนไหว สบายกระเป๋า

การมีรถยนต์สักคันอาจเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะใช้ในการเดินทางไปยังเส้นทางต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น แต่การมีรถสักคันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย “สินเชื่อรถยนต์” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีรถในยุคนี้

เพื่อให้เลือกสินเชื่อรถยนต์ได้เหมาะกับควาวมต้องการ บทความนี้จะพาคุณมาดูเทคนิคสำคัญในการเลือกสินเชื่อรถยนต์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และรายได้ เพื่อให้การมีรถไม่กลายเป็นภาระทางการเงินในระยะยาวกัน

สินเชื่อรถยนต์ คืออะไร

สินเชื่อรถยนต์ คือ เงินกู้ที่สถาบันการเงินหรือบริษัทไฟแนนซ์ปล่อยให้ผู้กู้เพื่อนำไปซื้อรถยนต์ หรือใช้รถยนต์ที่มีอยู่เป็นหลักประกันเพื่อขอเงินสดออกมา ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

สินเชื่อที่ผู้ซื้อและบริษัทไฟแนนซ์ทำสัญญาเช่าซื้อ โดยบริษัทถือกรรมสิทธิ์รถไว้จนกว่าผู้กู้จะผ่อนครบทุกงวด เมื่อผ่อนครบ รถจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อ

2. สินเชื่อรถแลกเงิน

การนำรถที่ปลอดภาระแล้วมาใช้เป็นหลักประกัน เพื่อขอเงินก้อนออกมาใช้โดยยังใช้รถได้ตามปกติ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีรถอยู่แล้วและต้องการเงินหมุนฉุกเฉินหรือขยายธุรกิจ

เทคนิคเลือกสินเชื่อรถยนต์ให้เหมาะกับคุณ

สินเชื่อรถยนต์นั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของค่าใช้จ่าย และการผ่อนชำระ ดังนั้น เพื่อให้เลือกได้เหมาะสมกับความต้องการ อาจลองใช้เทคนิคต่อไปนี้ประกอบการพิจารณา 

1. เช็กความสามารถในการผ่อนชำระ

ก่อนตัดสินใจทำสินเชื่อ ควรคำนวณรายได้และรายจ่ายของตนเองอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้ว ค่างวดรถไม่ควรเกิน 20 – 25% ของรายได้ต่อเดือน เช่น หากมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท ค่างวดรถที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 6,000 – 7,500 บาท เพื่อให้ยังมีเงินเหลือใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างสมดุล

เคล็ดลับ : การเลือกผ่อนระยะยาวจะทำให้ค่างวดต่อเดือนต่ำลง แต่ดอกเบี้ยรวมอาจสูงขึ้น ควรพิจารณาความสมดุลระหว่างการผ่อนสบายกับยอดจ่ายรวมตลอดครบสัญญา

2. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขแต่ละแห่ง

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์แตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ อายุรถ และประวัติการชำระของผู้กู้ โดยทั่วไปรถใหม่จะได้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ขณะที่รถมือสอง หรือการรีไฟแนนซ์รถเก่ามักมีดอกเบี้ยสูงกว่าเล็กน้อย

ดังนั้น ควรสอบถามอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ต่อปี หรืออัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกให้ชัดเจน เพื่อคำนวณภาระผ่อนที่แท้จริงได้ถูกต้อง

3. เลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะกับความต้องการ

หากคุณต้องการรถคันใหม่และมีรายได้มั่นคง สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ คือทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคุณมีรถอยู่แล้วและต้องการเงินสดหมุนในช่วงฉุกเฉิน เช่น ซ่อมรถ จ่ายค่าเทอม หรือขยายกิจการ การขอสินเชื่อรถแลกเงิน อาจตอบโจทย์กว่า เพราะยังสามารถใช้รถในชีวิตประจำวันได้อยู่ แต่ก็ได้เงินก้อนกลับมาใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นได้

4. ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแฝง

นอกจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว ควรสอบถามให้ละเอียดว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการดำเนินการหรือไม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายแฝง หรือค่าธรรมเนียมที่พบบ่อย เช่น 

  • ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์
  • ค่าประกันภัยรถยนต์
  • ค่าดำเนินการสินเชื่อ
  • ค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนครบกำหนด

การตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดภายหลัง และทำให้คุณวางแผนงบได้แม่นยำ

5. พิจารณาระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสม

สินเชื่อรถยนต์ทั่วไปมักให้ผ่อนได้ตั้งแต่ 12 – 72 เดือน ยิ่งผ่อนนาน ค่างวดต่อเดือนจะยิ่งต่ำ แต่ดอกเบี้ยรวมจะสูงขึ้น ควรเลือกตามกำลังชำระที่ไม่เกินรายได้ และยังมีเงินสำรองเหลือไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

6. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้สินเชื่อ

เลือกบริษัทสินเชื่อที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ ให้บริการโปร่งใส และแจ้งเงื่อนไขครบถ้วน โดยผู้กู้สามารถมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายและมีการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคอย่างชัดเจน

การเลือก สินเชื่อรถยนต์ ที่เหมาะสม ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ดอกเบี้ยต่ำหรือวงเงินสูงเท่านั้น แต่ควรคำนึงถึงความสามารถในการผ่อน ระยะเวลาชำระ และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ เพื่อให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถได้อย่างมั่นใจ และผ่อนไหวสบายกระเป๋าในทุกเดือน

สำหรับท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หรือการเงินสะดุดในช่วงนี้ สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกหนึ่ง ตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหมดปัญหาทางเรื่องการเงิน เพียงนำรถยนต์มาปรึกษากับทางเรา “สินเชื่อรถแลกเงิน Ilease ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็วทันใจ